ธนาคารปูม้า
- crabpelagicus
- Jun 25, 2022
- 1 min read
Updated: Jun 29, 2022
จากการจับสัตว์น้ำเกินกำลังและความเสื่อมโทรมของทรัพยากรทางทะเล ทำให้จำนวนและขนาดของปูม้าที่จับได้จากธรรมชาติลดลง หากไม่มีการป้องกันหรือแก้ไขปัญหานี้ อาจทำให้ปูม้าในทะเลไทยลดลงจนเหลือน้อยไม่เพียงพอต่อการบริโภค ส่งผลต่อเศรษฐกิจการส่งออกปูม้าของประมงไทยอีกด้วย การร่วมมือของชาวประมง รัฐบาล และองค์กรต่าง ๆ เพื่ออนุรักษ์ปูม้าในท้องทะเลไทย จึงเกิดโครงการ “ธนาคารปูม้า”
ธนาคารปูม้า หมายถึง การนำแม่ปูม้าที่มีไข่แก่ติดหน้าท้องมาฝากไว้ในกระชังที่อยู่ในทะเลหรือถังน้ำในโรงเรือน เมื่อแม่ปูม้าเขี่ยไข่ออจากหน้าท้องแล้วจึงนำแม่ปูไปขาย ไข่ที่ถูกเขี่ยออกจากตัวแม่ก็จะฟักเป็นตัวอ่อนระยะโซเอี้ย (zoea) หลังจากนั้นจะถูกปล่อยลงสู่ธรรมชาติ และกินอาหารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ จนเติบโตเป็นปูม้าขนาดใหญ่ต่อไป
การจัดทำธนาคารปูม้ามีหลายวิธีขึ้นกับความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ บริเวณที่หลบลมอาจใช้กระชังในทะเล หากบริเวณที่มีคลื่นลมแรงอาจจำเป็นต้องสร้างโรงเรือน เพื่อเป็นแหล่งดูแลแม่ปูม้าไข่นอกกระดอง โดยภายในโรงเรือนมีถังหรือบ่อเลี้ยงแม่ปู โดยใช้น้ำที่มีความเค็ม 27 – 35 ส่วนในพันส่วน รอจนกว่าแม่ปูม้าเขี่ยไข่ออกจากหน้าท้อง โดยแม่ปูม้าหนึ่งตัว (ขนาดกระดองกว้าง 9.15 – 18.84 เซนติเมตร) สามารถผลิตไข่จำนวน 229,538 – 2,859,061 ฟอง (เฉลี่ย 998,292 ฟอง) จากนั้นนำแม่ปูไปขายได้ และปล่อยลูกปูม้าลงสู่ทะเลธรรมชาติ นอกจากนี้ธนาคารปูม้าบางแห่งอาจใช้วิธีการนำแม่ปูม้าไข่นอกกระดองมาทำสัญลักษณ์ โดยใช้ปากกา กากบาท หรือ เขียนชื่อผู้ปล่อย เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าเป็นปูม้าที่ต้องการอนุรักษ์ แสดงว่าห้ามจับและจำหน่าย เมื่อแม่ปูม้าเขี่ยไข่หมด แม่ปูจะลอกคราบทำให้กระดองที่มีเครื่องหมายหลุดออกไป ชาวประมงสามารถจับและทำการประมงได้อีกครั้ง วิธีการนี้เป็นการปลุกจิตสำนึกและอนุรักษ์ปูม้าตามธรรมชาติที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ (ไม่ต้องสร้างกระชัง หรือ โรงเรือนเลี้ยงดูแม่ปูไข่นอกกระดอง)
จากการทำธนาคารปูม้าพบว่าบริเวณชายฝั่งมีลูกปูม้าระยะเมกาโลปาและลูกปูขนาดเล็กมีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นการทำธนาคารปูม้าจึงเป็นวิธีอนุรักษ์ปูม้าให้อยู่คู่ท้องทะเลไทยได้
แหล่งข้อมูล: สำนักวิจัยและพัฒนาประมงทะเล กรมประมง (2554)
Comments